“Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic” ยนตรกรรมอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด รูปลักษณ์สปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น
Mercedes-Benz unveils
the 4th Generation A-Class
ก้าวแรกสู่โลกแห่ง Premium Compact Car
บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว “The New Mercedes-Benz A-Class” เจเนอเรชันที่ 4 “Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic” ยนตรกรรมอัจฉริยะรุ่นใหม่ล่าสุด ที่จะเข้ามาเติมเต็มรถยนต์ในกลุ่มคอมแพ็กคาร์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic” มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ดูสปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ขับขี่เร้าใจด้วยเครื่องยนต์ใหม่ขนาด 1.3 ลิตร 163 แรงม้า ซึ่งถือเป็นคอมแพ็กคาร์ที่มีกำลังแรงม้ามากที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน ให้แรงบิดสูดสุด 250 นิวตัน-เมตร ที่ความเร็ว 1,620 รอบต่อนาที อัตราการปล่อยไอเสียต่ำเพียง 119-124 กรัมต่อกิโลเมตร และมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ย 5.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร
Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic ออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน บรรจุเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด พร้อมยกระดับความสะดวกสบายขณะขับขี่ด้วย MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ระบบมัลติมีเดียที่สามารถจดจำลักษณะการใช้งานของผู้เป็นเจ้าของได้ และจะทำงานร่วมกับบริการ Mercedes me connect ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างลูกค้า รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ รวมถึงบริการอื่นๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นไปอย่างสะดวกและง่ายดาย
Mercedes-Benz A 200 AMG Dynamic นำเสนอในราคา 2,490,000 บาท สัมผัสตัวจริงได้ ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั้ง 33 แห่งทั่วประเทศ
RELATED POSTS
ล้ำสมัยกว่าที่เคย เตรียมเวทีเพื่อ C-Class ใหม่
บุคลิกสปอร์ตและรูปแบบที่ชัดเจน เจเนอเรชันใหม่ของการผสมผสานนวัตกรรมเทคโนโลยี และการออกแบบอันสง่างาม สิ่งนี้ทำให้เมอร์เซเดส-เบนซ์คลาสสิกน่าดึงดูดกว่าที่เคย Dynamically relaxed การออกแบบ C-Class ใหม่ ดูล้ำสมัยกว่าที่เคยเมื่อมองจากภายนอก: เส้นสายที่ลดลง และสัดส่วนที่ไหลลื่นมีพลัง แสดงถึงความหรูหราทันสมัยสไตล์สปอร์ต Sporty lightness องค์ประกอบของการออกแบบอันทรงพลัง กระตุ้นให้การขับเร็วเป็นเรื่องสนุก C-Class นั้นคล่องตัวเป็นพิเศษ ทั้งยังขับง่ายด้วยระบบล้อหลังช่วยเลี้ยวซึ่งมีให้เป็นตัวเลือกเสริม Expressive from every angle เส้นสายด้านข้างที่สะอาดตาไปจนถึงด้านหลังที่ปิดท้ายด้วยไฟท้ายสองส่วน การออกแบบที่โดดเด่นทั้งกลางวันและกลางคืนนี้สะกดใจ Perfection in the spotlight DIGITAL LIGHT ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมนั้นสว่างและชัดเจนอย่างยิ่ง ไฟหน้าแบบ LED ประสิทธิภาพสูง มอบความปลอดภัยและทัศนวิสัยที่ดีขึ้นตามมาตรฐานการออกแบบ โดดเด่นเน้นรูปลักษณ์ด้านหน้าอันทรงพลัง Sensitive sports steering wheel พวงมาลัยที่ไม่เพียงแค่บังคับทิศทาง แต่ยังเป็นองค์ประกอบในการทำงานอีกมากมายของรถยนต์ และฟังก์ชันอันหลากหลายของ MBUX มีเซ็นเซอร์ที่ตอบสนองต่อการสัมผัส At home on the road อย่าออกจากพื้นที่ปลอดภัยของคุณ- ขยายขอบเขตมัน C-Class ใหม่นำโลกส่วนตัวอันผ่อนคลายสะดวกสบายของคุณมาสู่ท้องถนน -----||----- Simply convenient เทคโนโลยี คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศภายใน C-Class เหมือนที่ S-Class ประสบความสำเร็จ: จุดเด่นอันชาญฉลาด เช่น เทคโนโลยีเสมือนจริงสำหรับการนำทางที่เสริมด้วยสำเนียงแบบสปอร์ต ระบบ MBUX รุ่นใหม่ มอบความสะดวกสบายในระดับสูงสุด People at its heart ห้องโดยสารและระบบควบคุมแบบดิจิทัล ได้รับการออกแบบอย่างครอบคลุมโดยคำนึงถึงผู้โดยสารเป็นหลัก Easy to use จอแสดงผลส่วนกลางดูเหมือนเกือบจะลอยออกมาและเอนเข้าหาคนขับ MBUX ฟังก์ชันสำคัญของรถสามารถควบคุุมผ่านระบบสัมผัส Analogue design highlight ช่องแอร์ทรงกลมสามอันเหนือจอแสดงผลกลาง มีรูปลักษณ์เหมือนชิ้นส่วนไอพ่นของเครื่องบิน -----||----- Sustainably electrifying ยานยนต์ ยนตรกรรม C-Class รุ่นใหม่ใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งระบบ: ในเครื่องยนต์ไฮบริดอันนุ่มนวลทำงานด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า และด้วยปลั๊ก-อินไฮบริด รถสามารถแล่นได้ในระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) คุณจึงมั่นใจได้ว่า จะได้รับประสบการณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในอนาคต Striking front เทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่มีประสิทธิภาพบรรจุอยู่เบื้องหลังกระจังหน้าทรง diamond grille แบบ AMG Exclusive material mix วัสดุที่ดูเหมือนหนัง ไม้วีเนียร์ และอะลูมิเนียมแท้ ได้รับการคัดสรรมาผสมผสานเพื่อสร้างพื้นผิวที่เป็นนวัตกรรม Sustainable performance หนึ่งในรถรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดอย่าง C-Class เป็นผู้กำหนดมาตรฐาน นี่คือทุกสัมผัสของความสะดวกสบายสำหรับอนาคต เรื่อง: JULIA MENGELER ภาพ: MERCEDES-BENZ AG
Mercedes-EQS เปลี่ยนเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ให้เป็นประสบการณ์ความหรูหรารูปแบบใหม่
Mercedes-EQ กำลังบันทึกบทใหม่เรื่องเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า กับ EQS ใหม่: หนึ่งในสิ่งที่ยั่งยืน เร้าอารมณ์ และหรูหรา การผสมผสานที่น่าตื่นเต้นระหว่างการออกแบบศิลปะและเทคโนโลยีล้ำสมัย คือสิ่งที่ทำให้ Alicia Keys (นักร้องนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน) รู้สึกทึ่งกับ EQS ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับบทเพลงอันอ่อนไหวของศิลปิน รูปแบบแคมเปญใหม่ของรถซีดานหรูไฟฟ้าทั้งหมดคันแรกของเมอร์เซเดส-อีคิวนี้ จึงดูเหมือนลอยละล่องลงราวกับมาจากดาวดวงอื่น ทิ้งตัวลงมาอย่างนุ่มนวล เข้ามาหาซูเปอร์สตาร์ระดับโลก ทั้งสองเผชิญหน้ากัน ตาสบตา ภาพนี้แสดงให้เห็นถึงสัญลักษณ์ของการเชื่อมต่อที่เป็นธรรมชาติ และดูเหมือนง่ายดาย ระหว่างนวัตกรรมยานยนต์และความตระการตา การเชื่อมต่อนี้เป็นหัวใจหลักของ EQS และทำให้ยนตรกรรมนี้เป็นที่ต้องการมากขึ้น รถยนต์ไฟฟ้าทั้งคันที่อยู่ในแถวหน้าของตระกูลเมอร์เซเดส-อีคิว แสดงให้เห็นถึงความหรูหราที่ยั่งยืนและก้าวล้ำ ในแบบที่รถยนต์คันอื่นไม่เคยทำมาก่อน ลักษณะเฉพาะที่สะท้อนให้เห็นรูปแบบของ EQS: รูปลักษณ์ภายนอกเป็นไปตามภาษาการออกแบบที่ชัดเจน ซึ่งถ่ายทอดสายเลือดทางเทคโนโลยีสู่โลกภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพและสง่างาม อันเป็นคุณลักษณะเฉพาะของยนตรกรรมทั้งหมดจากตระกูลเมอร์เซเดส-อีคิว โดย EQS เปลี่ยนเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ให้เป็นประสบการณ์ความหรูหรารูปแบบใหม่ ที่ดึงดูดทุกความรู้สึก และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดความมั่นใจ เพราะ EQS คือยนตรกรรมแห่งความรับผิดชอบในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อเราทุกคน มาค้นพบเรื่องราวของ EQS ใหม่ ยานยนต์ไฟฟ้าระดับหรูคันแรก ที่ mbmag.me/eqs
‘เมอร์เซเดส-เบนซ์’ เปิดตัว ‘The new S-Class’ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เริ่มต้น 6.69 ล้านบาท!
เมอร์เซเดส-เบนซ์ พร้อมเปิดตัว “The new S-Class” อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ที่สุดแห่งยนตรกรรมในตระกูลเอสคลาสของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่พร้อมมอบประสบการณ์ความหรูหราและความปลอดภัย ด้วยนวัตกรรมสุดล้ำที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้ ทั้งในเรื่องของการมอบความสะดวกสบายในการขับขี่ การปกป้องผู้โดยสารในทุกเบาะที่นั่ง ตลอดจนการมอบประสบการณ์การใช้งานแบบอินเทอร์แอคทีฟ ที่ตอบทุกความต้องการของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ผ่านระบบดิจิทัลในทุกรายละเอียด The new S-Class มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 6 สูบเรียง ขนาด 2,925 ซีซี พร้อมเทอร์โบและอินเตอร์คูลเลอร์ มอบพละกำลังสูงสุดถึง 286 แรงม้า และแรงบิดสูงสุดถึง 600 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงได้ในเวลาเพียง 6.4 วินาที โดยขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลังแบบ 9G-TRONIC พร้อมระบบเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย เครื่องยนต์ชุดนี้นับเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเป็นเครื่องยนต์ดีเซลที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย การออกแบบภายนอกของ The new S-Class ถ่ายทอดความหรูหราออกมาภายใต้คอนเซ็ปต์ Sensual Purity ในภาษาดีไซน์ที่ได้รับการยกระดับขึ้นในทุกๆ ส่วน ภายใต้การตีความใหม่ให้ดูโมเดิร์นยิ่งกว่าที่เคย ตั้งแต่ไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED ดีไซน์ใหม่ที่ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์ในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้น ล้อแบบ AMG ขนาดใหญ่สูงสุด 20 นิ้ว กับระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่ารุ่นเดิมมากถึง 51 มิลลิเมตร เส้นโค้งหลังคา Catwalk line ที่กดองศาของหลังคาให้ต่ำลง ทำให้รถยนต์คันนี้ดูสปอร์ตขึ้น ทว่าพื้นที่ห้องโดยสารไม่ลดลงแต่กลับเพิ่มพื้นที่มากขึ้น นอกจากนี้ การออกแบบให้มือจับประตูเป็นแบบไร้รอยต่อ (Seamless door handles) ยังช่วยเพิ่มความกลมกลืนของเส้นสายทางด้านข้าง และช่วยให้การล็อกและปลดล็อกประตู ทำได้อย่างสะดวกสบายเพียงใช้มือสัมผัสที่มือจับประตู ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่นที่มอบทั้งความหรูหรา คุณภาพระดับสูง และวิสัยทัศน์ในการขับขี่ที่ดีที่สุด พรั่งพร้อมด้วยระบบ ENERGIZING comfort control ที่ควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสารแบบ 64 เฉดสี ระบบปรับอากาศพร้อม AIR BALANCE package ที่ทำให้ห้องโดยสารสะอาดยิ่งขึ้น และระบบเครื่องเสียงจากลำโพง Burmester 3D surround sound system ที่ให้คุณภาพเสียงที่มีมิติลุ่มลึก ฯลฯ ในห้องโดยสารยังพร้อมมอบประสบการณ์ดิจิทัล ที่ตอบรับความต้องการของผู้โดยสารในทุกที่นั่ง ตั้งแต่เบาะที่นั่งตอนหน้าเรื่อยไปจนถึงตอนหลัง เริ่มตั้งแต่การออกแบบคอนโซลหน้าด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่ดูโมเดิร์นขึ้น และตอบรับกับสรีระของผู้ใช้มากขึ้น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มด้วยหนัง Nappa leather และหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ความละเอียดสูงแบบ Digital Instrument clusters ขนาด 12.3 นิ้ว นอกจากนี้ The new S-Class ยังนำทุกปุ่มควบคุมตรงคอนโซลส่วนกลางให้เข้ามาอยู่บนหน้าจอ MBUX7 แบบทัชสกรีน ขนาด 12.8 นิ้ว ทั้งหมด โดยใช้หน้าจอแบบ OLED ที่มอบพื้นที่การใช้งาน (active area) บนหน้าจอที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมกว่า 64% ภายใต้การออกแบบในลักษณะฟรีฟอร์มดูบางเบา ทว่าตอบสนองฉับไว ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทุกฟังก์ชันการทำงานของรถยนต์ และฟังก์ชันต่างๆ ภายในห้องโดยสารได้อย่างใจ เพียงปลายนิ้วสัมผัส โดยผสานการทำงานร่วมกับระบบจดจำโปรไฟล์ผู้ขับขี่ ด้วยการสแกนลายนิ้วมือ (Fingerprint scanner) ที่จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ขับขี่แต่ละคน เพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลตลอดการขับขี่ได้อย่างตรงใจ เบาะที่นั่งตอนหลังแบบมัลติคอนทัวร์ ยังมาพร้อม Rear Seat Comfort Package ที่พร้อมมอบความสะดวกสบายในการโดยสารสูงสุด ทั้งการเป็นเบาะไฟฟ้าที่สามารถปรับตำแหน่งที่นั่งได้ และฟังก์ชันการนวด ENERGIZING ที่สามารถเลือกโปรแกรมการนวดได้สูงสุด 6 โปรแกรม ระบบมัลติมีเดีย MBUX7 (Mercedes-Benz User Experience) เจเนอเรชันใหม่ จะช่วยยกระดับประสบการณ์การขับขี่ขึ้นอีกขั้น ทั้งการมี MBUX Interior Assistant ที่จะทำงานอย่างฉับไว ในการตอบรับการเคลื่อนไหวร่างกายของผู้โดยสาร โดยระบบ Gesture Control 2.0 จะตรวจจับการเคลื่อนไหวของมือ ศีรษะ และร่างกาย เพื่อแปลความต้องการของผู้ใช้ นำไปสู่การควบคุมฟังก์ชันต่างๆ ภายในรถยนต์ เช่น หากยื่นมือขึ้นหรือลงทางกระจกมองหลัง ไฟอ่านหนังสือจะติดขึ้นหรือดับลงเองโดยอัตโนมัติ ฯลฯ ส่วนระบบ MBUX High-End Rear Seat Entertainment จะทำงานร่วมกับ Rear Tablet หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ยกระดับการควบคุมความบันเทิงของผู้โดยสารตอนหลัง ให้สะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะการควบคุมความบันเทิงบนหน้าจอขนาด 11.6 นิ้ว 2 หน้าจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง โดยภายในห้องโดยสารยังมาพร้อมระบบเสียง Burmester 3D surround sound system พร้อมชุดลำโพง 15 ตัวด้วย ใน The new S-Class ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ล้ำหน้าอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น การนำเสนอถุงลมนิรภัยด้านหน้า 2 ตำแหน่ง สำหรับผู้โดยสารด้านหลังเป็นครั้งแรก ระบบช่วยการนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ พร้อมกล้องแสดงภาพรอบทิศทาง (Parking Package with 360° camera) ที่มอบมุมมองรอบรถยนต์แบบ 360 องศา ที่เสมือนจริงยิ่งกว่าที่เคย ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE PLUS ที่ดีขึ้น ระบบ ATTENTION ASSIST รุ่นใหม่ที่ช่วยตรวจจับความผิดปกติของผู้ขับขี่ และส่งสัญญาณเตือนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมถึงระบบความปลอดภัยที่รวมอยู่ใน Driving Assistance Package เจเนอเรชันล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น Evasive Steering Assist ที่ช่วยดึงให้รถยนต์กลับมาอยู่ในเลน หากมีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน Active Emergency Stop Assist หรือระบบการหยุดรถฉุกเฉินที่จะทำงานตลอดเวลา รวมถึงฟังก์ชัน Exit Warning ที่จะทำงานหากมือของผู้โดยสารมีการขยับไปใกล้ที่จับประตูด้านใน ฯลฯ มร. โรลันด์ โฟล์เกอร์ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “วันนี้ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย พร้อมแล้วที่จะให้ทุกคนได้พบกับ “The new S-Class” รถยนต์ที่ดีที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน ทั้งยังเป็นรถยนต์หรูที่ขายดีที่สุดทั้งในตลาดโลกและในตลาดไทย สำหรับเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอสคลาส รุ่นใหม่นี้ เรามีความภาคภูมิใจที่ได้นำเสนอรถยนต์ที่จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นที่สุด ทั้งในเรื่องความหรูหรา ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ภายใต้การผนวกเอานวัตกรรมยานยนต์สุดล้ำหน้า ที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้ มาถ่ายทอดผ่านทุกรายละเอียดของการออกแบบ โดยเฉพาะประสบการณ์การเชื่อมต่อบนรถยนต์ผ่านอินเทอร์เน็ตไร้สาย ที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ จับมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 4G LTE ในประเทศไทยโดยเฉพาะ จึงช่วยให้ลูกค้าที่ซื้อรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์กับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้น ที่จะสามารถเปิดรับประสบการณ์การขับขี่ที่เป็นที่สุด ในแบบของรถยนต์รุ่นเอสคลาสได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับลูกค้าที่สนใจเป็นเจ้าของ “The new S-Class” สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และทำการจองรถยนต์กับผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ ได้แล้วตั้งแต่วันนี้” The new S-Class มีวางจำหน่าย 2 รุ่น ได้แก่ Mercedes-Benz S 350 d Exclusive ราคา 6,690,000 บาท Mercedes-Benz S 350 d AMG Premium ราคา 7,190,000 บาท พร้อมให้ลูกค้าผู้สนใจจับจองได้ตั้งแต่วันนี้ โดยลูกค้าสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The new S-Class และรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ทุกรุ่น ได้ที่ผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ และผู้จำหน่ายรถยนต์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีอย่างเป็นทางการทั่วประเทศ