TOP

ความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ของซุปเปอร์สตาร์ยอดนักเทนนิสระดับโลก “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์”

Federer The human superstar

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ คือหนึ่งในนักเทนนิสยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาล เป็นการง่ายที่เราจะเชื่อว่า เขาประสบความสำเร็จและก้าวขึ้นสู่การมีชื่อเสียงระดับโลกได้แบบสบายๆ แต่ความจริงเป็นเช่นนั้นหรือ นักเขียนของเรามีโอกาสได้ใช้เวลาหนึ่งวัน กับนักเทนนิสซูเปอร์สตาร์ชาวสวิส ที่กองถ่ายภาพยนตร์โฆษณาในดูไบ และกลับมาพร้อมด้วยเรื่องราวที่เปี่ยมไปด้วยแรงบันดาลใจ

เก้านาฬิกาเศษ ณ ดูไบ ในเดือนเมษายน ทีมงาน 20 ชีวิต ใช้เวลาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา เนรมิตสนามเทนนิสจำลองขนาดครึ่งสนามขึ้น ในพื้นที่ของอาคารแสดงสินค้าขนาดใหญ่ คอร์ตเทนนิสปูด้วยพรม มีเน็ต และทุกอย่างเหมือนจริง เพราะ “โรเจอร์ เฟเดอเรอร์” ตกลงที่จะปรากฏตัวในภาพยนตร์โฆษณาให้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซึ่งตั้งแต่หัวจรดเท้าของเขา จะต้องติดอุปกรณ์สำหรับบันทึกความเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ และเส้นประสาท เฟเดอเรอร์ จะตีลูกท็อปสปินที่ทรงพลังที่สุดไปหาคู่แข่งที่สมมติขึ้น ทุกการเคลื่อนไหวของยอดนักเทนนิสคนนี้ จะถูกคอมพิวเตอร์บันทึกเก็บไว้ อากาศภายในอาคารขณะนั้นทั้งร้อนและอบอ้าว ส่วนด้านนอกอุณหภูมิพุ่งสูงถึง 39 องศาเซลเซียส เฟเดอเรอร์มาถึงด้วยทีท่าหน้าตาแจ่มใสในชุดกางเกงยีนส์ เสื้อทีเชิ้ต และรองเท้ากีฬา เพียงไม่กี่วินาทีเขาก็ถูกรายล้อมด้วยผู้อำนวยการสร้าง ผู้กำกับ ช่างภาพ และซาวด์เอ็นจิเนียร์ เฟเดอเรอร์จับมือทักทายทีมงานอย่างเป็นกันเอง เขาพักอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ “ดูไบ” คือหนึ่งในสี่สถานที่ที่เขาเรียกว่า “บ้าน”

โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ซึ่งได้รับตำแหน่งนักกีฬายอดเยี่ยมประจำปีอีกครั้งในปี 2018 เป็นเสมือนมูฮัมหมัด อาลี หรือเปเล่ของโลกเทนนิส ไม่เคยมีนักกีฬาเทนนิสคนใดประสบความสำเร็จบนเส้นทางสายนี้มากไปกว่าเขา ในสนามแข่งขัน เฟเดอเรอร์ผสานความสง่างามเข้ากับความสามารถ ผนวกความสร้างสรรค์เข้ากับความแน่วแน่ และผนึกความแม่นยำเข้ากับพลัง ดังนั้น จึงไม่น่าประหลาดใจเลย ที่หนึ่งในคำถามซึ่งเขาถูกถามบ่อยที่สุด และเป็นคำถามที่แม้แต่เจ้าตัวเองก็ไม่อาจหาคำตอบได้ ก็คือ “จริงๆ แล้วคุณคือใครกันแน่นะ คุณเฟเดอเรอร์?”

หนึ่งในไอเดียแรกๆ ที่ Mercedes me คิดจะต่อยอดจากข้อมูลเหล่านี้ ก็คือ การเล่าถึงความใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กของโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ จวบจนถึงวันที่เขาได้ครองแชมป์วิมเบิลดันอย่างละเอียด เพื่อที่จะได้ฟังเฟเดอเรอร์เล่าถึงวัยเด็กว่า เขาทำประตูโรงรถของคุณปู่คุณย่าพังครั้งแล้วครั้งเล่าได้อย่างไร เขาตีลูกเทนนิสอัดใส่ชั้นวางของและตู้ของพ่อแม่อย่างไร แต่แนวคิดนี้อาจจะดูไม่ค่อยเป็นธรรมนัก กับเรื่องราวความสำเร็จอย่างมากมายของเขา ไม่เพียงแค่ชัยชนะในรายการวิมเบิลดัน 8 ครั้ง อย่างไม่มีใครทำได้ และการครองแชมป์ในรายการแกรนด์สแลมอื่นๆ อีก 20 ครั้ง ซึ่งนับเป็นสถิติที่มากกว่าใครในประวัติศาตร์ของกีฬาเทนนิส แต่เรายังต้องคิดถึงคำว่า “พรสวรรค์” และ “การฝึกซ้อม” ที่คงต้องเขียนลงในบทความเป็นพันๆ ครั้ง ตลอดจนคำอื่นๆ อย่าง “วินัย”, “ความทะเยอทะยาน”, “ความขยันหมั่นเพียร”, “ความเป็นมืออาชีพ”, “ความพากเพียร”, “ประสาทที่แข็งแกร่ง” และคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย ที่ได้เปลี่ยนความไม่มีแบบแผน ให้กลายเป็นหลักการปฏิบัติที่มีความสร้างสรรค์อย่างสูง แน่นอนว่ามันจะกลายเป็นข้อเขียนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง แต่แนวคิดนี้มีข้อด้อยอยู่ประการหนึ่งคือ ลักษณะเฉพาะตัวของเฟเดอเรอร์ ไม่อาจถูกลดทอนลงให้เป็นเพียงแค่ตำแหน่งแชมป์ และความฝัน หรือเป็นพรสวรรค์และการฝึกซ้อม

 

A break from tennis

ใครก็ตามที่มีโอกาสได้พบกับ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นอกสนามเทนนิส ได้ใช้เวลาทั้งวันร่วมกับเขา สัมภาษณ์เขาเป็นการส่วนตัว และพยายามค้นหาความลับเบื้องหลังความสำเร็จ ที่ยังคงดำเนินต่อไปของเขา จะได้ข้อสรุปเดียวกันว่า ชายผู้นี้มีความแตกต่างอย่างแท้จริง

10 นาฬิกา เฟเดอเรอร์ยังอยู่ในห้องแต่งตัว เขากำลังเลือกชุดสำหรับการถ่ายโฆษณาชิ้นนี้ โดยมีทีมงานสองคนคอยช่วยอยู่ ระหว่างนั้น เขาก็เล่าให้ผู้จัดส่วนตัวฟังไปด้วยเรื่องวันหยุดพักผ่อนสองสัปดาห์ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เขาได้หยุดนานขนาดนี้ เขามีความสุขมากแค่ไหนที่ได้อยู่กับทุกคนในครอบครัว อยู่กับเพื่อนๆ และตลอดสองสัปดาห์ เขาเล่นเทนนิสแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เฟเดอเรอร์หัวเราะ ยิ้มจนแก้มปริและตาหยี ใบหน้าบ่งบอกถึงความสุข ดูไม่มีร่องรอยของความตื่นเต้นหรือกระตือรือร้นจนเกินเลย ผู้ช่วยทั้งสองถามเฟเดอเรอร์ขึ้นพร้อมๆ กัน แต่ในคนละภาษา เขามีสีหน้างงอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะยิ้มและตอบคำถามของแต่ละคนอย่างใจเย็น ไปพร้อมๆ กับเปลี่ยนเสื้อ เฟเดอเรอร์ดูไม่หงุดหงิดหรือรู้สึกตื่นเต้นอะไรเลย กลับดูผ่อนคลาย สบายๆ จริงๆ ระหว่างการถ่ายทำ เห็นช่างกล้องเดินสะดุด เขาก็เข้าไปช่วยเและให้คำแนะนำเรื่องการจัดระเบียบร่างกายด้วย ช่วงพักดื่มน้ำ เขายังปรึกษากับผู้กำกับเรื่องกล้องดิจิทัลอย่างคร่ำเคร่งเป็นภาษาฝรั่งเศส บางทีก็เปลี่ยนมาพูดภาษาเยอรมัน สวิสเยอรมัน และอังกฤษอย่างคล่องแคล่ว ขึ้นอยู่กับว่าภาษาใดที่จะเหมาะสุดในตอนนั้น เวลาล่วงไปสามชั่วโมงแล้ว เฟเดอเรอร์ทำตามคำสั่งของผู้กำกับโดยไม่มีอิดออด ไม่มีการบ่น ภายในฮอลล์ที่อบอ้าวเพราะอากาศไม่ค่อยถ่ายเท เฟเดอเรอร์เหงื่อชุ่มไปทั้งตัว เขาเปลี่ยนเสื้ออีกครั้ง ร่างกายเขาไม่ได้ใหญ่โตเต็มไปด้วยมัดกล้ามแบบนักเพาะกาย แต่ก็ฟิตในทุกส่วน ต้นแขนและท่อนแขนข้างขวาซึ่งเป็นแขนที่เขาใช้เหวี่ยงแร็กเก็ต ดูจะใหญ่กว่าแขนซ้าย ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาสากด้าน ซึ่งคุณจะรู้สึกได้ทันทีเมื่อสัมผัสมือกับเขา ดีอะไรเช่นนี้ ยามนั้นคนทั่วๆ ไปคงคิดเหมือนกันว่า ก็ขนาด โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ยังมีข้อบกพร่องเลย

เฟเดอเรอร์พักรับประทานมื้อกลางวันร่วมกับทีมงาน หลังจากนั้น เขาก็แจกลายเซ็นและถ่ายภาพที่เขาทั้งยิ้ม และคล้องแขนกับผู้คนแปลกหน้าทั้งหมด แน่นอนว่านี่คือส่วนหนึ่งของงาน แต่ที่สำคัญคือ มันดูไม่เหมือนเป็นงานของเขาเอาเสียเลย ดูจะเป็นงานอดิเรกเสียมากกว่า บรรดาซูเปอร์สตาร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของพวกเรา ไม่ได้ก้าวขึ้นมาโดดเด่นเพราะความสำเร็จเท่านั้น พวกเขายังมีความสง่าที่หาได้ยาก มีท่าทีที่เรียบง่ายเป็นกันเอง และดูเป็นธรรมชาติ ไม่เสแสร้ง ซึ่งทำให้คนทั่วไปมีความรู้สึกว่าสามารถเข้าถึงซูเปอร์สตาร์เหล่านี้ได้

 

Dinner time for the Federers

เมื่อการถ่ายทำโฆษณาภายในฮอลล์เสร็จสิ้น พวกเราเดินทางไปยังทะเลทรายนอกเมือง ที่ซึ่งทีมงานจัดเตรียมรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เช็ดล้างและขัดจนเงาวับไว้เบื้องหน้า โดยมีฉากหลังเป็นเส้นขอบฟ้ากับตึกเบิร์จ คาลิฟา และกองคาราวานอูฐ เฟเดอเรอร์ไม่มีคิวที่จะต้องขึ้นไปนั่งบนหลังอูฐ พวกมันเป็นแค่ตัวประกอบในภาพโฆษณาเท่านั้น แต่เขาเกิดความสนใจใคร่รู้และเดินมุ่งไปยังฝูงอูฐ ใช้มือลูบหัวอูฐตัวหนึ่ง เฟเดอเรอร์ยิ้มกว้างราวกับเด็กผู้ชายที่กำลังตื่นเต้นอย่างที่สุด เขาสูดดมกลิ่นของพวกมัน ใช้มือโบกไปมาที่บริเวณจมูกของมัน จากนั้นกลับมายืนอยู่ที่หน้ารถยนต์เงาวับคันนั้น และจบการถ่ายทำ ด้วยการพูดประโยคเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมากว่า 20 ครั้ง ในฉากจบของโฆษณาชุดนี้ เขานั่งลง ผู้กำกับขอให้เขาทำโน่นทำนี่ครั้งแล้วครั้งเล่า เฟเดอเรอร์พูดประโยคเดิมซ้ำๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ด้วยน้ำเสียงที่แตกต่างกันเล็กน้อย

เวลา 17.43 น. อากาศกำลังปลอดโปร่ง อุณหภูมิลดลงมาอยู่ที่ 30 องศาเซลเซียส ทีมงานถ่ายทำโฆษณาใช้เวลากับเฟเดอเรอร์มาแล้วร่วม 8 ชั่วโมง ในวันนี้เขาถูกถ่ายภาพไว้นับร้อย เขาถูกสั่งให้หันขวา แล้วก็หันไปทางซ้าย บางครั้งให้ทำสีหน้าเคร่งเครียด บางครั้งให้ยิ้ม หัวเราะ ยิ้มยิงฟันเป็นอย่างนี้เรื่อยไปจนถึงเวลาที่พระอาทิตย์คล้อยต่ำลงไปเรื่อยๆ ทางทิศตะวันตก

เฟเดอเรอร์หวังว่าจะได้กลับบ้านไปเจอลูกๆ ทั้งสี่ก่อนหกโมงเย็น ครอบครัวของเขามักรับประทานอาหารค่ำพร้อมกันตอนหกโมงครึ่ง เวลาที่เขาถูกจองตัวไว้ทำงานหมดไปนานแล้ว แต่ซูเปอร์สตาร์อย่างเฟเดอเรอร์ มีความเรียบง่ายอย่างที่หาได้ยากยิ่ง เขาทำให้เรารู้สึกว่าสามารถเข้าถึงเขาได้ เขานั่งอยู่ในรถเพื่อให้สัมภาษณ์ แต่เลือกนั่งที่นั่งผู้โดยสาร ไม่ใช่ที่นั่งคนขับ บางทีอาจจะเป็นการแสดงถึงความถ่อมตนก็เป็นได้ หลังจากช่วงวันทำงานอันยาวนาน และมีครอบครัวรอคอยการกลับไปของเขา โรเจอร์ เฟเดอเรอร์จะมีสมาธิกับการตอบคำถามของพวกเราไหม แต่เขาก็มีให้อย่างเต็มร้อย ไม่มีการตอบคำถามแบบสั้นๆ ห้วนๆ ไม่แสดงความหงุดหงิดขุ่นเคือง เขาโทรศัพท์ไปบอกที่บ้านว่าจะกลับช้ากว่ากำหนดเล็กน้อย แถมระหว่างการให้สัมภาษณ์ เขาไม่ได้เหลือบมองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือเลยแม้เพียงครั้งเดียว

เฟเดอเรอร์จะคิดก่อนตอบในทุกคำถาม เขาเล่าเรื่องราวในวัยเด็กของตัวเองว่า ในที่สุดแล้วพ่อกับแม่ตกลงซื้อเน็ตให้เขาได้เล่นเทนนิสบนถนน ไม่ใช่ในห้องนั่งเล่นเหมือนก่อนหน้านั้นได้อย่างไร เขาและเพื่อนๆ ต้องยกเน็ตหนีทุกครั้งที่มีรถแล่นผ่านมาอย่างไร เขาเติบโตมาในย่านที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างเงียบสงบ ห้อมล้อมไปด้วยผู้คนที่อ่อนโยน เป็นห่วงเป็นใย และรักเขา เฟเดอเรอร์อธิบายเหตุผลที่ทำให้เพื่อนจากวัยเด็กหลายๆ คน ยังคงมีความสำคัญต่อเขาจนถึงปัจจุบัน เขารู้สึกขอบคุณพ่อแม่และปู่ย่าตายายของเขามากเพียงใด ความเคารพ และความรู้สึกซาบซึ้งใจปรากฏอยู่ในทุกคำพูดของเฟเดอเรอร์ ที่ยังเป็นคนเดิมสำหรับคนเหล่านั้น แม้ว่าจะมีความแตกต่างมากมายเหลือเกิน ระหว่างชีวิตของเขาและคนอื่นๆ แม้จะเป็นเรื่องยากในการพยายามที่จะอยู่ให้ติดดิน ไม่ตัวลอยละล่องในขณะที่มีคำยกย่องสรรเสริญไปทั่วโลก เฟเดอเรอร์คือคนแบบที่ใครๆ ก็อยากได้เป็นเพื่อน หรืออยากทำความรู้จัก ไม่ใช่เพราะเขาร่ำรวยมีชื่อเสียง และไม่ใช่เพราะเขายังคงสร้างสถิติใหม่ให้กีฬาเทนนิสอย่างไม่หยุดยั้ง

เวลาผ่านไปจนถึงหนึ่งทุ่ม ขณะออกจากกองถ่าย เฟเดอเรอร์บอกว่าเขารอที่จะได้พบหน้าครอบครัว ในการสัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ เฟเดอเรอร์บอกว่าเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ไม่ได้มีอะไรที่พิเศษไปกว่าคนอื่นๆ นักข่าวที่มีบทสัมภาษณ์อยู่ในกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว กำลังนั่งอย่างมีความสุขอยู่บนพื้นทราย ขณะที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า ย้อนคิดถึงคำถามเปิดการพูดคุย “จริงๆ แล้วคุณคือใครกันแน่นะคุณเฟเดอเรอร์?” หากจะมีคำตอบให้กับคำถามนี้ ก็คงเป็นคำตอบที่ออกจะซ้ำซากน่าเบื่อ หรือบางทีคำตอบอาจเป็นเพียงแค่ประโยคธรรมดาๆ ที่ว่า โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ก็คือ โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ไงล่ะ ใช่เลย ถูกต้อง และเขายังเป็นนักเทนนิสยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลด้วย