TOP

เดอะ ฟอเรสเทียส์ เตรียมพร้อมเปิดให้ชม ‘มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า’ บ้านคลัสเตอร์สุดหรู สำหรับครอบครัวใหญ่หลายเจเนอเรชั่น

ยอดขายโครงการที่พักอาศัยต่างๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ล่าสุดแตะ 22,000 ล้านบาท วันนี้ MQDC (บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมแล้วที่จะเปิดวิลล่าหลังแรกของโครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์ วิลล่า ในวันที่ 1 ธันวาคม 2565 นี้! 

ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงแนวคิดใหม่ในการออกแบบบ้าน ที่หลายวิลล่าถูกเชื่อมต่อถึงกัน เพื่อให้ครอบครัวขยายที่ประกอบไปด้วยสมาชิกหลายเจเนอเรชั่นสามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวด้วยการอยู่อาศัยในบ้านเดี่ยวของตัวเอง

มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวที่ออกแบบโดย Foster + Partners โดยแต่ละวิลล่ามีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ประมาณ 1,000 – 1,700 ตารางเมตร มี 3 ขนาด ตั้งแต่ 4 – 6 ห้องนอน ตั้งกระจายตัวอยู่บนที่ดินพื้นที่ 26 ไร่ ใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ โครงการมิกซ์ยูส ขนาด 398 ไร่ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ภาคเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

นายชาคริต หัสสรังสี ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นแบรนด์ระดับลักชัวรี่ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึง โครงการซิกเซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ กล่าวว่า “นี่เป็นแนวคิดใหม่ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตของครอบครัวคนไทย ที่หลายเจเนอเรชั่นในครอบครัวเดียวกัน มักจะปลูกบ้านอยู่ใกล้ ๆ กัน แต่ด้วยความจำเป็นของวิถีชีวิตคนเมืองสมัยใหม่ ทำให้การใช้ชีวิตตามแบบที่เคยเป็นมา กลายเป็นเรื่องยากมากขึ้นเรื่อย ๆ มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า จึงมุ่งช่วยส่งเสริมให้ครอบครัวได้กลับมาอยู่ใกล้ชิดกันอีกครั้ง ซึ่งแนวคิดนี้ ได้รับความสนใจและการตอบรับเป็นอย่างดี และตอนนี้ทางโครงการพร้อมแล้ว ที่จะเชิญครอบครัวที่สนใจเข้าชมบ้านจริงได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้เป็นต้นไป”  

นายรุ่งโรจน์ จงศุจิพันธุ์ ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด กล่าวว่า “มัลเบอรี่ โกรฟ มีแนวคิดที่เปิดโอกาสให้สมาชิกในครอบครัวได้อยู่อาศัยใช้ชีวิตอยู่ในอาณาบริเวณที่ใกล้ชิดติดกับพ่อแม่ หรือลูกที่โตแล้ว หรือทั้งสองอย่าง ยังจะช่วยทำให้เจ้าของบ้านมี ‘โบนัสเวลา’ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขของครอบครัวที่เพิ่มขึ้น โดยทุกเจเนอเรชั่นซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านที่ออกแบบเหมาะกับความต้องการของตัวเอง จะสามารถไปมาหาสู่กับสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวได้โดยการเดินไปหาเพียงไม่กี่นาที ครอบครัวจะสามารถช่วยกันเลี้ยงเด็ก ๆ ได้ รวมทั้งช่วยกันดูแลพ่อแม่ที่อายุมากแล้วได้สะดวกสบายมากขึ้น และไม่จำกัดเวลาไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็ตาม เป็นการประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทางไปมาหาสู่กันระหว่างบ้าน ซึ่งจะทำให้ครอบครัวมีเวลามากขึ้นสำหรับทำกิจกรรมร่วมกัน ประโยชน์ที่สำคัญมาก ๆ อีกอย่างหนึ่งก็คือ เด็ก ๆ จะไม่รู้สึกว่าถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว เพราะจะมีสมาชิกในครอบครัวที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงเป็นเพื่อนอยู่ตลอดเวลา ส่วนปู่ย่าตายายที่เกษียณแล้วก็จะรู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น สดใส เพราะมีลูกหลานอยู่ใกล้ ๆ”

วิลล่าขนาดใหญ่พิเศษของ โครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า มีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,700 ตารางเมตร ราคาขายอยู่ที่ประมาณ 310 ล้านบาท ส่วนวิลล่าขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,200 ตารางเมตร ราคาขายประมาณ 220 ล้านบาท ในขณะที่บ้านขนาดกลางเนื้อที่ใช้สอยประมาณ 1,000 ตารางเมตร ราคาขายประมาณ 185 ล้านบาท

ทั้งนี้ วิลล่าหลังใหญ่ที่สุดมีห้องรับประทานอาหารและพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ เพื่อให้ทั้งครอบครัวที่มีสมาชิกทุกเพศทุกวัย สามารถมารวมตัวทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยกันได้ในบ้านหลังเดียว โดยบางวิลล่าสามารถนั่งล้อมโต๊ะทานข้าวพร้อมกันได้ถึงยี่สิบคน หรือมากกว่านั้น

มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่ส่วนลักชัวรี่อื่น ๆ ภายในโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ อาทิ ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ วิลล่า โครงการที่พักอาศัยซูเปอร์ลักชัวรี่ ซึ่งเป็นซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์แห่งแรกในประเทศไทย รวมทั้ง โรงแรมซิกเซนส์ ที่มีกำหนดจะเปิดให้บริการในปี 2567 ด้วย

เดอะ ฟอเรสเทียส์ ตั้งอยู่บนพื้นที่เชื่อมต่อเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วบนถนนบางนา-ตราด กม. 7 ถือเป็นโครงการต้นแบบระดับโลกแห่งใหม่ในการพัฒนาเมือง รวมทั้งเป็นโครงการเมืองแห่งแรกของโลก ที่ออกแบบทุกมิติเพื่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น และมีความสุขมากขึ้น โครงการได้รับการออกแบบรังสรรค์และก่อสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการยอมรับและยกย่องมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก จนถึงขณะนี้โครงการได้รับรางวัลจากทั่วโลกแล้วมากกว่า 40 รางวัล การันตีความโดดเด่นในด้านการส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้นในการอยู่อาศัย คุณภาพสิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน อาทิ ‘Gold Award for Urban Design’, และ ‘Silver Award for Sustainable Living and Green Design’, จากสถาบันอันทรงเกียรติ International Design Awards (IDA), Platinum Award for environmental sustainability จาก Outstanding Property Awards London, Winner of the Global Human Settlements Award on Planning and Design จาก Global Forum on Human Settlements, และรางวัล Winner of the Visionary Living & Working award จาก Innovative Architecture.

นายกิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC กล่าวว่า “เราได้เห็นว่าโครงการที่อยู่อาศัยต่าง ๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้รับการตอบรับที่ดีมาก ซึ่งรวมถึงโครงการมัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า ที่ทำยอดขายได้แล้วกว่า 5,500 ล้านบาท ในขณะที่โครงการซิกเซนส์ เรสซิเดนซ์ ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และเรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากที่เห็นว่าหลายครอบครัวตั้งใจซื้อที่อยู่อาศัยโครงการต่าง ๆ ในเดอะ ฟอเรสเทียส์ เพื่ออยู่จริง และการก่อสร้างโครงการก็กำลังคืบหน้าไปอย่างรวดเร็ว”

นายกิตติพันธุ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ที่อยู่อาศัยโครงการต่าง ๆ ทั้งหมดใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ มียอดขายรวมกันถึง 22,000 ล้านบาทแล้ว

องค์ประกอบสำคัญที่โดดเด่นเป็นพิเศษอย่างหนึ่งของโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ได้แก่ ป่าขนาดใหญ่พื้นที่ 30 ไร่ บริเวณใจกลางโครงการ พร้อมทางเดินยกระดับที่ทอดยาวทะลุผืนป่ายาว 1.6 กิโลเมตร นอกจากโครงการที่พักอาศัยหลากหลายรูปแบบแล้ว เดอะ ฟอเรสเทียส์ ยังประกอบไปด้วยพื้นที่สำหรับกิจกรรมไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนของครอบครัว ร้านค้าปลีก ร้านอาหารและเครื่องดื่ม พื้นที่ Town Center สำหรับกิจกรรมชุมชน และกิจกรรมทางวัฒนธรรมต่าง ๆ Family Center ตลาด สปอร์ตคอมเพล็กซ์ และพื้นที่เชิงธุรกิจสำหรับสำนักงาน 

 

สนใจชมโครงการ “มัลเบอร์รี่ โกรฟ วิลล่า” และรายละเอียดเพิ่มเติม ที่: Call Center 1265 

หรือ เว็บไซต์ www.MQDC.com