TOP

เรือสำราญสุดหรูสัญชาติอิตาลี่ “คอสตา เวเนเซีย” ประเดิมเส้นทางด้วยทริป 53 วัน อิตาลีสู่ญี่ปุ่น

“The Best Time at Sea”

นับเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นเมื่อนักท่องเที่ยวฝั่งเอเชีย จะได้มีทางเลือกเปิดประสบการณ์ในการเดินทางท่องเที่ยวทางเรือเดินสมุทรมากขึ้น เมื่อเรือสำราญลำใหญ่ที่สุดสมาชิกใหม่ลำดับที่ 4 ของบริษัทเดินเรือสำราญอันดับหนึ่งของยุโรปสัญชาติอิตาลี Costa Cruise มีชื่อว่า “คอสตา เวเนเซีย”  Costa Venezia พร้อมแล้วที่ออกเดินทางโชว์ศักยภาพและความหรูหรา ถอนสมอเรือเอาฤกษ์เอาชัยออกเดินทางเป็นครั้งแรกจากท่าเรือ เมืองตริเอสเต ประเทศอิตาลี สู่ทริปอันน่าทึ่ง ไปเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา หลังจากเรือต่อเสร็จสมบูรณ์ไม่นาน สู่การล่องเรือ “ตามรอยมาร์โค โปโล” ผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนข้าม 3 ทวีป 4 น่านน้ำทะเล และ 18 ประเทศ จากอาเดรียติกไปถึงทะเลแดง จากอินเดียไปถึงสิงคโปร์ และจากจีนไปถึงชายฝั่งญี่ปุ่น” ทริปนี้ตลอดเส้นทางรวม 53 วัน พร้อมกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเส้นทาง ขณะเรือเดินทางสู่ท่าเรือแหลมฉบัง ประเทศไทย เมื่อวันที่ 17 เมษายนอีกด้วย ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังจุดหมายตามแผนของเส้นทางดังกล่าว

เรือที่มีน้ำหนักรวม 135,500 ตัน ยาว 323 เมตร และจุผู้โดยสารได้มากกว่า 5,200 คน “Costa Venezia” ไม่เพียงแต่จะมีนวัตกรรมล้ำสมัยที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ยังมีความพิเศษที่ภายในลำเรือ รวมไว้ซึ่งเสน่ห์ในด้านต่างๆ ของประเทศอิตาลี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตกแต่งดีไซน์ที่ถ่ายทอดสัญลักษณ์ด้านวัฒนธรม ไลฟ์สไตล์ ของ “เมืองเวนิส” ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ถูกจำลองอย่างหรูหรา โรงละครภายในเรือได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “Venetian La Fenice” โรงละครโอเปร่าที่มีชื่อเสียงก้องโลก ห้องโถงใหญ่ที่ชวนให้นึกถึง “จัตุรัสเซนต์มาร์ค” ในขณะที่ภัตตาคารภายในเรือยังจำลองสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมของตรอกซอย และจัตุรัสต่างๆ ของเมืองเวนิส  แถมยังยกเอา “เรือกอนโดลา” สร้างโดยช่างฝีมือแห่ง Squero di San Trovaso จากโรงต่อเรือกอนโดลาที่เก่าแก่ และมีชื่อเสียงมากที่สุดของเมืองเวนิส มาให้สัมผัสกันอย่างใกล้ชิดเลยทีเดียว นอกจากกายสัมผัสแล้ว รสสัมผัสก็ไม่แพ้กัน นักท่องเที่ยวผู้โดยสารยังสามารถลิ้มลองความอร่อยของอาหารท้องถิ่นอิตาเลียน ดื่มด่ำเมนูขึ้นชื่อจาก เชฟ Umberto Bombana แห่ง 81/2 Otto e Mezzo Bombana ภัตตาคารระดับ 3 ดาวมิชลินสตาร์ ภายในภัตตาคาร Casanova หนึ่งในห้าภัตตาคารสุดพิเศษบนเรือลำนี้

นอกจากเปิดเส้นทางเดินเรือสู่เอเชียแล้ว ความพิเศษที่เอาใจนักท่องเที่ยวชาวเอเชียบนเรือยังมีความหลากหลาย ที่คัดสรรค์พร้อมเสิร์ฟในสไตล์มั่นใจได้ว่า ต้องว้าว!! สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวญี่ปุ่นอย่างแท้แน่นอน ไม่ว่าจะทั้งเรื่องกิจกรรมเสี่ยงโชค ที่นำเอาไพ่นกกระจอก กาสิโน คาราโอเกะ มาเพิ่มความบันเทิง ที่ “Casino Dea Bendata” และเมื่อเดินเข้าสู่โรงละครภาพความตระการตาของเดคคอเรชั่น ให้ความโอ่โถงตกแต่งด้วยโทน “สีแดง ตัดกับ สีทอง” หรูหรารับกับแชนเดอเลียในธีมสีที่ให้ความมงคลกับคนจีน หากรู้สึกคิดถึงอาหารท้องถิ่นที่เป็นสากลและคนทั่วโลกชอบ ทางเรือยังจัดเมนู ฮอทพอท บะหมี่ เทปันยากิ ติ่มซำ ไว้รองรับราวกับเสกภัตตาคารลอยทะเล และนำเทรนด์ช้อปสนุกในดีลสุดพิเศษ ที่ Costa Venezia จัดโซนช้อปปิ้งกว้างขวางให้ละลายเงินในกระเป๋า ถูกใจเหล่าช้อปเปอร์ด้วยหลากสไตล์สินค้าแบรนด์ดังระดับโลกทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ที่พาเหรดกันมาใน “ช็อปปิ้งพาวิเลียน” สไตล์เวนิส พื้นที่ขนาดใหญ่กว่า 8,000 ตารางฟุต ครอบคลุมพื้นที่ช้อปปิ้งถึงสองชั้นจาก Starboard Cruise Services ผู้ให้บริการรีเทลระดับพรีเมี่ยมบนเรือสำราญ รวมไปถึงแบรนด์อิตาลีลักซ์ชูรี่ ที่รวมใจเปิดช็อป นำสินค้าเดินทางสู่ท้องทะเลกันเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็น Max Mara, Salvatore Ferragamo และ Bvlgari แค่นี้ไม่พอเรื่องช้อปเรื่องใหญ่ ไปกันต่อที่แผนกสินค้าความงามกับไฮท์แบรนด์บิวตี้ชื่อดังมากกว่า 30 แบรนด์ เริ่มต้นที่ Yves Saint Laurent, La Prairie, BvlgariChanel, Dior, La Mer, SK-II รวมถึงแบรนด์อินเตอร์ที่วางจำหน่ายบนเรือสำราญเป็นครั้งแรก อย่าง Clé de Peau Beauté และ Hermès ส่วนแบรนด์เอเชีย ประกอบด้วย Dr.Jart+, Sulwhasoo และ The History of Whoo ยังมีแบรนด์สินค้าอัญมณีเครื่องประดับหรูหราจัดมาล่อตาล่อกระเป๋า อาทิ Cartier, Jaeger-LeCoultre, Tiffany & Co., Mikimoto และอีกมากมาย ภายในเรือน้องใหม่แต่ลำใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียลำนี้ ยังได้รับความไว้วางใจจาก 2 ลักซ์ชูรี่แบรนด์ดัง ให้เปิดตัวคอลเลคชั่นทอล์คออฟเดอะทาวน์บนเรือเช่นกัน นั่นคือแบรนด์น้ำหอม The Merchant of Venice ที่เชิดชูความงามของวัฒนธรรมเวนิส และแบรนด์ Bvlgari ที่จัดงานเปิดตัวสินค้าอัญมณีล้ำค่ากลางมหาสมุทร ในชื่อ The Bvlgari Jewelry Show”

แต่ละค่ำคืนสุดพิเศษ ยังจะได้รับชมการแสดงนานาประเภท และนำพาทุกคนตามรอยตำนานคาสโนว่า Giacomo Casanova หนุ่มนักรักจากเวนิส ประเทศอิตาลีที่มีชื่อเสียงไปก้องโลก พร้อมกับสุนทรีย์เสพงานศิลป์ “Glamazon” ภาพวาดที่น่าประทับใจของสัตว์ในอิริยาบถต่างๆ รวมถึง Venezia Innamorata” ละครเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนิยายรักของนักเขียน และนักผจญภัยชื่อดังชาวอิตาเลียน Giacomo Casanova ซึ่งถูกสร้างสรรค์ขึ้นเฉพาะเป็นพิเศษสำหรับ โรงละคร Teatro Rosso และ ไฮไลท์ปาร์ตี้หน้ากากในธีมต่างๆ เช่น “Golden Party” และ “Carnival of Venice” ที่เป็นซิกเนเจอร์ธีมปาร์ตี้ของเรือ ผู้โดยสารนักท่องเที่ยวจะได้ร่วมปาร์ตี้จัดเต็มชุดที่สุดอลัง และสวมใส่หน้ากากสู่งานเต้นรำในบรรยากาศ The City of Canals อันเป็นช่วงเวลาสุดแสนพิเศษสำหรับคนพิเศษจริงๆ

มาเอาใจแฟนลูกหนังกันบ้าง กับโซนที่รวบรวมคอลเลคชั่นฟุตบอลอิตาลี่จัดแสดงแบบ 360 องศาที่หาชมได้ยาก ถูกออกแบบให้เป็นดั่งพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของสโมสรยูเวนตุส ถ้วยรางวัลจากหลายแมตซ์และของจารึกที่มีลายเซ็นต์จากดาวเด่นตั้งแต่ทศวรรษที่ 70 รวมถึงนิตยสารภาพถ่ายในยุคต่างๆ, ชุดเสื้อผ้าที่ใช้แข่งขันในแต่ละซีซั่น, รองเท้าฟุตบอลพร้อมลายเซ็นต์นักฟุตบอลชื่อดัง, ทั้งยังมีร้านขายของที่ระลึก ช้อปสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่นกันอย่างเต็มที่ก่อนใคร แฟนฟุตบอลตัวยงต้องห้ามพลาดเลย

ในส่วนกิจกรรมกลางแจ้ง นั่งรับลมชมวิวทะเล จิบเครื่อมดื่มเย็นๆ นอนอาบแดดอุ่นให้ผิวสีแทน แม้แต่เพลิดเพลินในสระว่ายน้ำกันได้ทั้งครอบครัว ไม่ว่าจะสระกลางแจ้งและสระในร่ม หรือจะนอนแช่ตัวในสระจากุซซี่ก็เพลินดี ที่ “ดาดฟ้า Burano Sunshine” หรือจะสนุกกับสวนน้ำสไลด์ตัวบนเครื่องเล่นสไลเดอร์แบบโบวล์ยักษ์ 3 ตัว ที่สวนน้ำ “ลากูน่า” (La Laguna) เผลอใช้เวลาเพลินๆ ได้เป็นค่อนวัน หรือจะชวนกันพัดลูกชิลๆ วาดลีลาที่ “สนามมินิกอล์ฟ”  ปล่อยให้เด็กๆ วิ่งเล่นเอ็นจอยสนามฟุตบอลกลางแจ้ง เพิ่มความมันส์อีกระดับกับกิจกรรมฐานเชือก อุปกรณ์ออกกำลังกายกลางแจ้ง บนเรือยังมีศูนย์สุขภาพ ยิมออกกำลังกายในร่ม และสปาให้ได้ผ่อนคลายอารมณ์ อีกทั้งยังมีคลับสำหรับวัยรุ่นและเด็กๆ “Squok Club” และ “Teen Club” เตรียมกิจกรรมมากมายให้เด็กๆ และวัยรุ่น ได้ใช้ช่วงเวลาวันหยุดที่มหัศจรรย์บนเรือสำราญร่วมกัน โดยใน Squok Club จะมีกิจกรรมหลากหลายให้เด็กๆ ทำไม่รู้เบื่อ ไม่ว่าจะปาร์ตี้ที่มีธีมพิเศษ, เกมอินเตอร์แอคทีฟสำหรับครอบครัว, คาราโอเกะร้องเพลงสนุกสนานด้วยกันในจังหวะแห่งความสุข, กิจกรรมเพ้นท์ใบหน้า, ทั้งยังมีโอกาสได้สวมบทบาทเป็นกัปตันเรือสุดเท่และเจ้าหญิงแสนสวยในหนึ่งวัน ส่วนกลุ่มเด็กวัยรุ่น ทางเรือยังครีเอทชั้นเรียนเต้นรำ, บอลลูน อาร์ท, การแข่งกีฬา, การเล่นเกมในสระว่ายน้ำ, สนุกสนานไปกับการวาดภาพ, ร้องคาราโอเกะ, การฝีกเป็นดีเจ, และธีมกิจกรรมอีกมากมาย ที่สรรสร้างเพื่อมอบความสุขสันต์ในวันพักผ่อน

เรียกว่าได้ว่าแต่ละอณูของพื้นที่บนเรือ ถูกออกแบบเอาใจความต้องการของทุกเพศทุกวัยหลายสไตล์จริงๆ จึงไม่แปลกที่ Costa Venezia เป็นเรือที่พรั่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และเต็มไปด้วยเสน่ห์ที่แตกต่างไปจากคู่แข่งเรือสำราญอื่นๆ ด้วยความคิดอันลึกซึ้งที่ต้องการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของนักเดินทางจากทั่วโลก เพื่อมอบประสบการณ์ให้ทุกคนเป็นดั่งราชาและราชินีแห่งท้องทะเลเลยทีเดียว แม้ว่าเรือสำราญสัญชาติอิตาลี่ลำนี้ ที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อตลาดเอเชียโดยเฉพาะ มุ่งเน้นเจาะกลุ่มคนเอเชียที่เป็นนักท่องเที่ยวจีนและญี่ปุ่นก็ตาม และท่าเรือประเทศไทยยังไม่ได้ถูกบรรจุให้เป็นหนึ่งในโปรแกรมของเส้นทาง ที่เรือ Costa Venezia จะจอดพักรับนักท่องเที่ยวชาวไทยในเวลานี้ แต่คนไทยก็สามารถท่องเที่ยวเรือลำนี้ได้

ซึ่ง “มิสเตอร์ โรเบอร์โต เวอร์ดิโน” รองผู้จัดการประจำประเทศญี่ปุ่น เกาหลี เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกกับ AROUND Online ว่า “ปัจจุบันอัตราส่วนของนักท่องเที่ยวชาวเอเชียเติบโตขึ้นทุกปี โดยเฉพาะจีนและญี่ปุ่น เรือสำราญของบริษัท Costa Cruise เห็นโอกาสที่จะมอบประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยว ในอีกมิติด้วยเรือสำราญที่พร้อมเติมเต็มทุกการเดินทางให้ครบรส เป็นอีกทางเลือกที่คนเอเชียยังไม่ค่อยได้มีโอกาสสัมผัสการเดินทางแบบนี้เช่นเดียวกับฝั่งยุโรปและอเมริกา โดยเน้นเปิดตลาดไปที่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนและญี่ปุ่นก่อน เพราะกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่นิยมท่องเที่ยวเรือด้วยเช่นกัน สำหรับนักท่องเที่ยวไทยยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก แต่ถึงอย่างไรก็มีแนวโน้มของนักท่องเที่ยวไทย เดินทางเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี และเริ่มให้ความสนใจในการเดินทางผ่านเรือสำราญกันมากขึ้นด้วย โดยจะนิยมซื้อทัวร์จากเอเยนซี่ในรูปแบบของแพ็กเกจพร้อมตั๋วเครื่องบิน เพื่อเดินทางไปยังประเทศในเส้นทางของเรือสำราญ ที่มีท่าจอดรับนักท่องเที่ยว โดยวางแผนท่องเที่ยวล่วงหน้าใช้เวลาเที่ยวเมืองตามสถานที่ต่างๆ ของประเทศนั้นๆ ก่อน แล้วเลือกรับประสบการณ์ท่องเที่ยวเดินทางไปต่อ หรือเที่ยวกลับด้วยเรือยังแหล่งท่องเที่ยวตามรูทที่วางแผนไว้จนจบจุดหมาย ก่อนต่อเครื่องบินกลับยังประเทศไทย”

 

ในเวลานี้คนไทยที่ต้องการเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวเรือสำราญไปกับ Costa Venezia

สามารถเลือกแพ็กเกจการเดินทางผ่านเอเยนซีทัวร์ หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ www.costaasia.com